- การพิมพ์ดิจิทัลออฟเซ็ตคืออะไร?
การพิมพ์ดิจิทัลแตกต่างจากการพิมพ์ออฟเซ็ตตรงที่สีจะถูกถ่ายโอนโดยตรงลงบนกระดาษหรือสื่ออื่นๆ เครื่องพิมพ์ดิจิทัลที่พบมากที่สุดได้แก่:
เครื่องพิมพ์ที่ใช้โทนเนอร์: ใช้ผงไฟฟ้าสถิตที่ถูกยึดติดกับกระดาษด้วยความร้อน
โดยสีจะมาในรูปแบบของ Toner ตามตลับสี
การพิมพ์ดิจิทัลจึงเหมาะสำหรับงานขนาดเล็กและงานที่ต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น การพิมพ์ที่มีข้อมูลแปรผัน และข้อเสนอที่แตกต่างกันเช่น เราต้องการพิมพ์การ์ดแต่งงาน และเราต้องการระบุชื่อของแขกในการ์ดนั้นๆ เลยงานพิมพ์ ดิจิตอล ออฟเซ็ท สามารถทำให้ได้
ข้อดีของการพิมพ์ดิจิทัล:
เหมาะสำหรับงานพิมพ์ปริมาณน้อย
ต้นทุนการตั้งค่าต่ำและต้นทุนต่อหน้าไม่สูง
เหมาะสำหรับงานพิมพ์ตามสั่ง (สิ่งที่คุณต้องการ เมื่อคุณต้องการ) print on demand
ตัวเลือกที่รวดเร็วและประหยัดสำหรับงานพิมพ์ขาวดำ
เป็นวิธีเดียวในการพิมพ์ข้อมูลแปรผันสามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น การพิมพ์การ์ด ที่ระบุชื่อไม่เหมือนกัน
ข้อจำกัด
· ขนาดความกว้างของกระดาษพิมพ์ได้ใหญ่สุด คือขนาด A3+ (297 * 4300 mm)
· ความหลากหลายของชนิดกระดาษ อาจมีให้เลือกน้อย
เครื่องพิมพ์ออฟเซ็ตคืออะไร?
พื้นฐานหลักของเครื่องพิมพ์ออฟเซ็ต คือแม่พิมพ์จะแยกสีของภาพออกเป็นส่วนประกอบของสีแต่ละสี โดยแต่ละสีจะมีแผ่นเพลท ของตัวเองและติดตั้งบนถังแผ่นของตัวเอง ส่วนที่ไม่ใช่ภาพของลูกกลิ้งจะถูกทำให้ชุ่มด้วยน้ำ และส่วนที่เป็นภาพจะถูกเติมด้วยหมึก ภาพจากถังแผ่นที่มีหมึกจะถูกโอนไปยังถังออฟเซ็ต ซึ่งจะทำการพิมพ์สีลงบนกระดาษ การที่ถังออฟเซ็ตทำหน้าที่พิมพ์สีลงบนกระดาษแทนการพิมพ์ตรง ทำให้วิธีนี้ถูกเรียกว่าออฟเซ็ตการพิมพ์ วิธีนี้เหมาะสำหรับการพิมพ์ในปริมาณมาก โดยให้คุณภาพสีที่แม่นยำและภาพที่คมชัดในทุกชิ้น
ข้อดีของการพิมพ์ออฟเซ็ต:
- คุ้มค่าสำหรับงานพิมพ์ขนาดใหญ่สามารถพิมพ์กระดาษได้สูงสุด ถึงขนาด A0 (841*1188 mm)
- จำนวนพิมพ์มาก ต้นทุนต่อชิ้นที่ลดลง
- มีตัวเลือกกระดาษและสื่ออื่นๆ หลากหลาย
- สามารถใช้หมึกพิเศษ เช่น PantoneⓇ หรือหมึกเมทัลลิค
- ให้คุณภาพสีและความคมชัดที่ยอดเยี่ยม
ข้อจำกัด
- ต้องพิมพ์จำนวนมาก
- งานต้องขึ้นเพลท จึงต้องมีการเช็คไฟล์ให้ถูกต้องก่อนการผลิตจริง เพราะเมื่อทำไปแล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้
สรุปการเลือกใช้อะไรดี ก็ขึ้นอยู่ลักษณะของงาน แต่ละบุคคลว่าเหมาะสม กับงานพิมพ์ประเภทใด
ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ กู๊ดไซน์ ก็พร้อมจะให้คำแนะนำได้นะคะ